พระพุทธรูปปางสมาธิหรือปางตรัสรู้
พระประจำวันพฤหัสบดี เป็นพระปางสมาธิ บางทีเรียกว่า “ปางตรัสรู้” มาจากเมื่อครั้งเจ้าชายสิทธัตถะทรงประทับขัดสมาธิบนบัลลังก์หญ้าคาใต้ต้นมหาโพธิ์ ใกล้ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา และได้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ หรือที่เรียกว่า “วันวิสาขบูชา”
ประวัติ พระประจำวันพฤหัสบดี
ประวัติกล่าวไว้ว่า ครั้งพระมหาบุรุษบรมโพธิสัตว์ทรงกำจัดพญามาร และเสนามารให้ปราชัยด้วยพระบารมี ตั้งแต่เวลาสายันต์มิทันพระอาทิตย์จะอัสดงคต ก็ทรงเบิกบานพระทัยได้ปีติเป็นกำลังภายในสนับสนุนเพิ่มพูนแรงปฏิบัติสมาธิภาวนาให้ยิ่งขึ้น ดังนั้นพระองค์จึงมิได้ทรงพักให้เสียเวลา ทรงเจริญสมาธิภาวนาทำจิตให้ปราศจากอุปกิเลสจนจิตสุขุมเข้าโดยลำดับ ไม่ช้าก็ได้บรรลุปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน และจตุตถฌาน อันเป็นรูปสมบัติตามลำดับ
ต่อจากนั้นก็ทรงเจริญฌานอันเป็นองค์ปัญญาชั้นสูง ๓ ประการ ยังองค์พระโพธิญาณให้เกิดขึ้นเป็นลำดับ ตามลำดับแห่งยามสามอันเป็นส่วนราตรีนั้น คือในปฐมยามทรงบรรลุบุพเพนิวาสานุสสติญาณ สามารถระลึกอดีตชาติที่พระองค์ทรงบังเกิดมาแล้วทั้งสิ้นได้ ในมัชฌิมยามทรงบรรลุจุตูปปาตญาณหรือทิพจักขุญาณ สามารถหยั่งรู้การเกิด การตาย ตลอดจนกานเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์ทั้งหลายอื่นได้หมด ในปัจฉิมยาม ทรงบรรลุอาสวักขยญาณ ทรงพระปรีชาสามารถทำอาสวกิเลสทั้งหลายให้หมดสิ้นไปด้วยปัญญาพิจารณาในปัจจยาการแห่งปฏิจจสมุปบาท โดยอนุโลมและปฏิโลมทั้งฝ่ายเกิดและฝ่ายดับสาวไปข้างหน้า และสาวกลับไปมา ก็ทรงบรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในเวลาปัจจุสสมัยรุ่งอรุโณทัยทรงเบิกบานพระฤทัยอย่างสูงสุดในการตรัสรู้อย่างที่ไม่เคยมีในกาลก่อน ถึงกับทรงเปล่งอุทานเย้ยตัณหาอันเป็นตัวการ ก่อให้เกิดสังสารวัฏฏทุกข์แก่พระองค์แต่อเนกชาติได้ว่า “อเนกชาติ สํสารํ” เป็นอาทิความว่า นับแต่ตถาคตท่องเที่ยวสืบเสาะหาตัวนายช่างเรือนคือ ตัวตัณหา ตลอดชาติอันจะนับประมาณมิได้ ก็มิได้พบพาน ดูกรตัณหานายช่างเรือนผู้สร้างภพชาติให้แก่เรา บัดนี้เราได้พบท่านแล้ว แต่นี้สืบไป ท่านจะทำเรือนให้ตถาคตอีกไม่ได้แล้ว กลอนเรือนเราก็ได้รื้อออกแล้ว ช่อฟ้าเราก็ได้ทำลายแล้ว จิตของเราปราศจากสังขารเครื่องปรุงแต่งให้เกิดในภพอื่นเสียแล้ว เราได้ถึงความดับสูญสิ้นไปแห่งตัณหา อันหาส่วนเหลือโดยประการใดๆมิได้เลย
ในขณะนั้น มหาอัศจรรย์ก็บังเกิดมีขึ้น กล่าวคือ พื้นมหาปฐพีอันกว้างใหญ่ก็หวั่นไหว พฤกษาชาติทั้งหลายก็ผลิดอกออกช่องามตระการตา เทพเจ้าทุกชั้นฟ้าก็แซ่ซ้องสาธุการโปรยปรายบุปผามาลัยทำการสักการบูชา เปล่งวาจาว่า พระสมมาสัมพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นแล้วในโลก ด้วยปีติยินดีเป็นอัศจรรย์ที่ไม่เคยมีมาในกาลก่อน เรื่องนี้ จึงเป็นมูลให้มีการสร้างพระพุทธรูป “ปางตรัสรู้” เพื่อเป็นพุทธานุสสติอนุสรณ์ฉะนี้แล
พุทธลักษณะพระพุทธรูปปางสมาธิหรือพระปางตรัสรู้ :
พระพุทธรูปในพระอริยาบถประทับขัดสมาธิ (นั่ง) พระหัตถ์ทั้งสองวางหงายซ้อนกันบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย พระชงฆ์ (แข้ง) ขวาทับพระชงฆ์ซ้าย
ทำไมพระประจำวันพฤหัสบดี จึงเป็นพระปางสมาธิหรือพระปางตรัสรู้ :
เหตุที่พระประจำวันเกิดของคนเกิดวันพฤหัสบดีกำหนดเป็นพระปางสมาธิหรือพระปางตรัสรู้ ด้วยเพราะดาวพฤหัสบดีมีความหมายถึง ความสำเร็จ ความเจริญรุ่งเรือง ศาสนาศีลธรรม และสติปัญญา ฯลฯ อีกทั้งยังถือเป็นวันครู ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ทรงเป็นพระบรมครูที่ทรงสั่งสอนพุทธบริษัทและเหล่าเวไนยสัตว์ ซึ่งปางตรัสรู้นี้จึงสอดคล้องกับลักษณะดาวพฤหัสบดีพอดี
รายชื่อพระพุทธรูปปางสมาธิ พระประจำวันพฤหัสบดี
- พระพุทธโสธร(หลวงพ่อโสธร) พระอุโบสถหลวง วัดโสธรวราราม จ.ฉะเชิงเทรา
- พระประธานยิ้มรับฟ้า วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร จ.กรุงเทพมหานคร
- พระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) จ.กรุงเทพมหานคร
บทสวดบูชาพระประจําวันพฤหัสบดี แบบย่อ :
(ตั้งนะโม ๓ จบ)
“วา โธ โน อะ มะ มะ วา“
สวด ๑๙ จบ เพื่อเสริมสิริมงคลชีวิต
คาถาบูชาพระประจำวันพฤหัสบดี
พิกัด ไหว้พระประจำวันพฤหัสบดี พระพุทธรูปปางสมาธิหรือพระปางตรัสรู้
- หลวงพ่อโสธร (พระพุทธโสธร) พระอุโบสถหลวง วัดโสธรวราราม จังหวัดฉะเชิงเทรา
- พระประธานยิ้มรับฟ้า วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร จ.กรุงเทพมหานคร
- พระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) จ.กรุงเทพมหานคร
พระประจำวันเกิด 7 วัน
พระประจำวันเสาร์ พระพุทธรูปปางนาคปรก
พระประจำวันศุกร์ พระพุทธรูปปางรำพึง
พระประจำวันพุธ กลางคืน พระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์
พระประจำวันพุธ กลางวัน พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร
พระประจำวันอังคาร พระพุทธรูปปางไสยาสน์
พระประจำวันจันทร์ พระพุทธรูปปางห้ามสมุทร
พระประจำวันอาทิตย์ พระพุทธรูปปางถวายเนตร
พระประจำวันพฤหัสบดี พระพุทธรูปปางสมาธิ
ที่มาของประวัติความเป็นมา:
- เว็บไซต์ ฐานข้อมูลศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น - กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม
เขียนคอมเมนท์